
กลางวันแดดแรงอากาศร้อนและแห้ง ส่วนกลางคืนอากาศเย็นอุณหภูมิลดต่ำลงในระยะนี้
กรมวิชาการเกษตร เตือน
เกษตรกรชาวสวน
มังคุดเฝ้าระวังการระบาดของเพลี้ยไฟ มักพบเข้าทำลายในระยะที่ต้น
มังคุดเริ่มออกดอกและติดผลอ่อน
จนถึงระยะแตกยอดอ่อนและใบอ่อน
โดยจะพบตัวอ่อนและตัวเต็มวัยของเพลี้ยไฟเข้าทำลายดูดกินน้ำเลี้ยงจากส่วนต่างๆ
ของพืช
สำหรับการเข้าทำลายของเพลี้ยไฟในระยะออกดอกและติดผลอ่อน
อาจทำให้ดอกและผลอ่อนมังคุดร่วง
ส่วนผลอ่อนมังคุดที่ไม่ร่วงเมื่อมีการพัฒนาผลโตขึ้น
จะเห็นรอยทำลายของเพลี้ยไฟชัดเจน
เนื่องจากผิวเปลือกมังคุดจะมีลักษณะขรุขระที่เรียกว่า ผิวขี้กลาก
ทำให้ผลผลิตมังคุดมีคุณภาพต่ำ
การเข้าทำลายของเพลี้ยไฟในระยะแตกยอดอ่อนและใบอ่อน
จะส่งผลทำให้ต้นมังคุดชะงักการเจริญเติบโต แคระแกร็น หงิกงอ ใบไหม้
และต้นมังคุดขาดความสมบูรณ์

แนวทางในการป้องกันและแก้ไขการระบาดของเพลี้ยไฟ
ให้เกษตรกรสำรวจการระบาดของเพลี้ยไฟบนดอกและยอดอ่อน
หากพบเพลี้ยไฟจำนวนมากกว่าหรือเท่ากับ 1 ตัวต่อ 4 ดอก หรือ 1 ตัวต่อยอด
ให้เกษตรกรพ่นด้วยสารฆ่าแมลงที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดอิมิดาโคลพริด
70% ดับเบิ้ลยูจี อัตรา 3 กรัมต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารคาร์โบซัลแฟน 20%
อีซี อัตรา 50 มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร หรือสารฟิโพรนิล 5% เอสซี อัตรา 10
มิลลิลิตรต่อน้ำ 20 ลิตร และไม่ควรพ่นสารชนิดใดชนิดหนึ่งติดต่อกันหลายครั้ง
เพราะจะทำให้เพลี้ยไฟสามารถต้านทานสารฆ่าแมลงได้
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น